นาฬิกา ธงค้อนเคียว ปฏิทิน


      เวลาประเทศไทย...     
 
 images by free.in.th
 

      ปฏิทินวันนี้...   

News online

Radio

REDPLUS  LIVE 1
ผู้กล้าปชต. 90.25 MHz
REDSIAM
SOOMHUAGUN
วิทยุ 3DANG 1
วิทยุแกนนอน
วิทยุม้าเร็ว 1
THAIVOICE 2
ติดต่อเรา way2fight.rs@gmail.com
Blog นี้เข้าได้สองทางนะครับ http://way2fight.blogspot.com และ http://fighttillwin.blogspot.com แต่ละ Blog มีบทความให้อ่านต่างกันครับ แต่นอกนั้นเหมือนกันหมดครับ C box เดียวกันครับ เข้าทางไหนก็คุยกันได้ครับ สำหรับท่านที่ต้องการเข้ามาคุยอย่างเดียวเชิญทางนี้ครับ http://way2fight.cbox.ws/ (ห้องสีชมพู) และ http://winniebetter.cbox.ws/ (ห้องสีฟ้า) สำหรับท่านที่ต้องการอ่านแต่บทความอย่างเดียวเพราะคอมช้า ทำให้เสียเวลาในการโหลดหน้าเวบ ทางทีมงาน Blog ได้รวบรวมบทความทั้งหมดไว้ด้วยกันแล้ว เชิญทางนี้เลยครับ http://way2fightnews.blogspot.com/

way2fight C-Box

ห้องลับสำหรับคุยหลังไมค์

World Clock เวลาทั่วโลก

วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สัมภาษณ์ทนายความคดีสุรภักดิ์ : มุมมองการต่อสู้คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์-112

การยกฟ้องในคดีของสุรภักดิ์ ผู้ต้องขังในคดีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และมาตรา 112 กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สร้างแรงกระเพื่อมอย่างสำคัญในสังคม โดยเฉพาะแวดวงนักกิจกรรมและผู้ที่สนใจเรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะคดีลักษณะดังกล่าว เมื่อเกี่ยวพันกับมาตรา 112 ที่ผ่านมาแทบไม่ปรากฏการชนะคดีให้เห็น ยกเว้นคดี ‘เบนโตะ’ ผู้ถูกกล่าวหาว่าโพสต์ข้อความในเว็บบอร์ด

ธิติพงษ์ ศรีแสน หรือที่เรียกกันว่า ทนายเซียง เป็นทนายว่าความคดีนี้ เขาเป็นทนายผู้เชี่ยวชาญคดีทรัพย์สินทางปัญญาและเริ่มทำคดีความมั่นคงที่ เป็นประเด็นอ่อนไหวเป็นคดีแรก ความน่าสนใจของเขาอยู่ที่แนวทางในการสืบพยานและการเตรียมการของทนายซึ่งไม่ มีผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือ รวมไปถึงมุมมองเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมที่น่าสนใจ

000000

แบ็คกราวน์ก่อนหน้านี้ทำคดีเกี่ยวกับอะไร
ก็เป็นทนายอิสระ ทั่วๆ ไปเหมือนสำนักงานทนายความ ที่เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.คอมมากหน่อยก็เป็นคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา แต่สองปีที่ผ่านมาก็เริ่มทำคดีเสื้อแดงเยอะ ในช่วงสลายชุมนุมปี 53 คือคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนใหญ่จะทำกับชาวบ้านรากหญ้า ไม่ใช่ระดับแกนนำ วันที่ 19 พ.ค.53 ม็อบแตก บังเอิญได้รับโทรศัพท์จากคนเสื้อแดงหลายคน แจ้งว่ามีคนถูกจับกุมแล้วถูกจับตัวไปศาลและถูกบังคับให้รับสารภาพ เลยเข้าไปช่วย

แล้วมารับคดีนี้ได้อย่างไร
เพราะเห็นบทเรียนจากคดีอากง แล้วเห็นว่าคดีแบบนี้ เป็นคดีที่ไม่ว่าคำพิพากษาก็ดี เนื้อหาคดี มันทะแม่งๆ ไม่น่าจะสามารถลงโทษจำเลยได้ จากนั้นมีโอกาสเจอกับแม่ของสุรภักดิ์โดยบังเอิญแล้วเขาเล่าให้ฟัง ก็สงสารแม่เขา
ที่สำคัญ สุรภักดิ์ จำเลยของคดีนี้ก็เป็นเสื้อแดงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าด้วยความที่ส่วนตัวเป็นเสื้อแดง หรือว่าอคติ หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมเชื่อว่าคนมีความคิดในแนวเสื้อแดง พื้นฐานเขาเป็นคนดี

ตอนแรกหวั่นใจไหม
หวั่นใจ คำฟ้องโจทก์เขียนค่อนข้างดี รัดกุม เป็นขั้นเป็นตอน ผมก็ยังเคยคุยกับเพื่อนทนายว่า หนักและเครียดมากคดีนี้
จริงๆ แล้วโดยรูปแบบแล้วหนักกว่าคดีอากง คดีอากงเปรียบเทียบแล้วคล้ายๆ ว่าอากงยิงปืนไม่เป็น แต่บังเอิญมีปืนไว้กระบอกหนึ่ง ใครหยิบไปฆ่าคนตายแล้วมาวางไว้ที่บ้านอากงก็ไม่รู้ ข้อเท็จจริงมันชัดว่าอากงไม่เคยยิงปืนและยิงปืนไม่เป็น แต่สุรภักดิ์เป็นโปรแกรมเมอร์ ใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ และพบหลักฐานในคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ความยากของคดีมันอยู่ตรงนี้ และเอกสารในสำนวนเยอะมากที่เราต้องตรวจสอบด้วยตัวเอง อ่านแล้วเจอพิรุธในเอกสารของโจทก์เอง มีแค่บรรทัดเดียวเล็กๆ ว่ามีการใช้เครื่องวันที่ 2 ก.ย.และ 7 ก.ย.ตอนที่เขาโดนจับแล้ว

ตัวทนายมีความรู้พื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ไหม
ผมก็มีในฐานะ user ทั่วๆ ไป ถ้าเขาได้ประกันตัวมาคดีจะสะดวกกว่านี้เยอะ โดยเฉพาะเมื่อตัวจำเลยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้วย ข้อเท็จจริงเราบอกผ่านกันทางลูกกรง จำเลยไม่มีโอกาสมานั่งสาธิต เขาบอกอย่างเดียวว่ามันปลอม แต่มันจะปลอมยังไง ผมต้องไปนั่งศึกษา ผมก็ไม่มีทีม support มันหายาก ผู้เชี่ยวชาญก็ไม่อยากจะให้ความร่วมมือ ใช้วิธีอ่านหนังสือ ค้นคว้า โดยเราได้ธงมาอย่างหนึ่งคือจำเลยยืนยันว่าไม่ได้ทำและหลักฐานเป็นไฟล์ปลอม ซึ่งเราก็ต้องตีโจทย์ต่อเองว่ามันปลอมยังไง

ใช้เวลานานไหมในการหาข้อมูล
คดีนี้ก็น่าจะประมาณ 3 เดือน

คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา กับที่เกี่ยวกับคดีความมั่นคง มีความยากง่ายต่างกันไหม
ต่างกันหลายเรื่อง คดีนี้สำคัญที่สุดคือแรงกดดัน คนที่โดนคดีนี้ คนที่มาทำคดีนี้ ตกอยู่ภายใต้ภาวะแรงกดดันสูง คุณไม่มีทางไปเชิดหน้าชูตาบอกใครที่ไหนได้เลยว่าคุณเป็นทนายให้คนที่หมิ่น สถาบัน คุณจะไปขอความร่วมมือจากใคร แล้วโดยความซับซ้อนก็มีสูง โดยส่วนตัวเราก็ไม่ใช่นักคอมพิวเตอร์ ทุกคดีมีความยากง่ายแตกต่างกันไป แต่คดีนี้องค์ประกอบส่วนอื่นยิ่งทำให้คดียากขึ้นไปอีก

หลังจากรับคดีนี้แล้ว คาดว่าจะมีปัญหาในอาชีพการงานไหม
อันนั้นไม่กลัว โดยส่วนใหญ่แล้วลูกความของผมมักมีแนวคิดทางการเมืองตรงข้ามกับผม แต่เขาก็เข้าใจในบทบาทและน่าที่ แต่ถ้าเขาจะไม่จ้างผมเป็นทนายเพราะผมเป็นคนเสื้อแดง ผมก็ไม่ worry  ถ้าเรามั่นใจว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผลที่จะตามเราพร้อมจะรับเสมอ คนรอบข้างใกล้ตัวหลายคนก็ทักเสมอ ท้วงติงด้วยความห่วงใยว่า แน่ใจเหรอที่จะมาทำคดีแบบนี้ เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องอ่อนไหวในสังคมไทย จะจริงหรือไม่จริง พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาถูกประณามไปก่อนแล้ว เหมือนคดีของสุรภักดิ์ พิสูจน์ได้เลยว่าพยานหลักฐานที่ทำเป็นเท็จแต่ตลอดระยะเวลาปีเศษๆ เขาเหมือนอะไรสักอย่างที่ถูกตั้งข้อสังเกตในสังคมไปแล้ว

จะมีการดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับผู้แจ้งความจับในคดีนี้ไหม
เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายว่าจะตัดสินใจอย่างไร คงให้คำแนะนำหลังจากที่เขามาขอคำแนะนำ สาระสำคัญของคดีนี้ ผมว่ามันกล่าวหากันง่ายเกินไป เราพูดในเรื่ององค์รวมในการใช้มาตรา 112 คดีอย่างสุรภักดิ์มันกล่าวหากันง่ายมาก มีคนบอกตำรวจว่ามีเฟซบุ๊คหมิ่นสถาบัน คนบอกมีตัวตน แต่คนที่บอกว่าเจ้าของเฟซบุ๊คคือสุรภักดิ์คือนายมานะชัยซึ่งไม่ปรากฏตัวตน เป็นคำกล่าวอ้างของพนักงานสอบสวน ไม่มีการตรวจสอบที่มาที่ไปว่าคนนี้คือใคร แล้วก็นำมาซึ่งการออกหมายค้น วันนั้นยังไม่ออกหมายจับนะ พอเจอเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ ตำรวจยังไม่สามารถจับได้นะ เพราะไม่มีการกระทำความผิดซึ่งหน้า ในขั้นตอนในการจับกุม ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้าจับกุมได้ให้สุรภักดิ์เขียนกระดาษอีกใบหนึ่งบอก ว่าเฟซบุ๊คที่มีเรื่องนี้ มีพาสเวิร์ดอะไร สุรภักดิ์ไม่รู้ก็ให้พาสเวิร์ดเครื่องไป แล้วตำรวจก็เอาหลักฐานตัวนี้ไปขอหมายจับที่ศาล
คือกระบวนการ หรือ process มันผิดฝาผิดตัวหมด  กระบวนการดำเนินคดีมันผิดมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่มีคนแจ้งกันง่ายๆ ว่าคนนี้ ชื่อนี้ ที่อยู่นี้เป็นคนทำ คนที่บอกก็ยังหาตัวตนไม่เจอ

คดีนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าพยานหลัก ฐานอาจจะเท็จ มีความเป็นไปได้ไหมที่จะสามารถสร้างบรรทัดฐานโดยจำเลยอาจฟ้องกลับเจ้า พนักงานที่ดำเนินการ
เป็นไปได้ พยานบุคคลที่นำมาสืบเป็นผู้เชี่ยวชาญเหมือนกัน เขายืนยันกับผมหลังสืบพยานว่า เขามั่นใจในฐานะนักคอมพิวเตอร์ว่าหลักฐานนี้เท็จแน่นอน หลังจากที่สุรภักดิ์ออกจากคุกแล้วก็คงให้เขาคิดและตัดสินใจเองว่าจะทำอย่าง ไร

กระบวนการยุติธรรมถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด มาถึงวันนี้คิดอย่างไร
ผมว่าหลังจากที่ฟังคำพิพากษาวันนี้แล้ว เรายังพอมีความหวังอยู่บ้างเรื่องกระบวนการยุติธรรม แต่โดยส่วนตัวผม กระบวนการยุติธรรมจะไม่ยุติธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาเลย ถ้าผู้ที่ถูกกระทำหรือจำเลยหรือผู้ต้องหา ไม่ได้รับสิทธิตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการประกันตัว ผมมีความเห็นว่า คดีมาตรา 112 หรือคดีอะไรก็แล้วแต่ เมื่อภายหลังมีการยกฟ้องจำเลย มันจะเกิดความเสียหายกับจำเลยน้อยมาก ถ้าศาลให้โอกาสจำเลยในการต่อสู้คดีโดยการให้ประกันตัว วันนี้ผมถามว่า ออกมาแบบนี้ ระยะเวลา 1 ปีเศษๆ ที่สุรภักดิ์อยู่ในคุก ผมมองว่าไม่มีอะไรทดแทน ชดเชยให้เขาได้ ชดเชยทางความรู้สึก เวลาที่เสียไป ธุรกิจการงาน

เรื่องการประกันตัวดูจะเป็นปัญหาใหญ่ในคดีลักษณะนี้
เรื่องการประกันตัวเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ใช่การกล่าวอ้างไม่ให้ประกันลอยๆ ยกตัวอย่างว่า กรณีศาลสั่งไม่ให้ประกันเนื่องจากกลัวจะหลบหนี กลัวยุ่งเหยิงกับพยาน มันมีหลายคดีที่ข้อเท็จจริงในคดีมีการสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นเรียบร้อย แล้ว และการหนีของจำเลยก็ต้องดูว่าเขาสามารถหนีไหม คุ้มกับที่เสียหลักประกันไปหรือเปล่า
เราพูดเรื่องสิทธิของจำเลยในการได้รับการประกันตัวกันเยอะ แต่เราไม่เคยพูดว่าอำนาจของคนที่จะไม่ให้ประกันตัวควรจะมีแค่ไหน จริงๆ เราควรพูดเรื่องนี้มากกว่า ผมเห็นว่าปัญหานี้เป็นปัญหาเรื่องของคน ซึ่งสามารถใช้ช่องว่างของระบบได้ แต่ถ้าเราสามารถแก้ไขระบบได้ ต่อให้คนที่มีทัศนคติเกี่ยวกับคดียังไง ก็ไม่สามารถใช้ดุลยพินิจเกินเลย ยกตัวอย่างว่า ถ้าเราวางระบบว่าถ้าข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้คุณต้องให้ประกันตัวนะ คุณจะใช้ดุลยพินิจนอกเหนือจากระบบไม่ได้ แต่ตอนนี้โครงสร้างของระบบมันมีช่องว่าง
เวลาพูด เราพูดถึงองค์รวม การปรับหรือการปฏิรูประบบยุติธรรม ประชาชนทุกคนต้องได้ประโยชน์ รวมทั้งคดีมาตรา 112 เพื่อให้ยุติธรรมกับประชาชน

คิดว่าคดีนี้อัยการจะอุทธรณ์ไหม
แล้วแต่ทางอัยการ ถ้าอุทธรณ์เราก็มีหน้าที่แก้อุทธรณ์ ส่วนผลนั้นก็ไม่อาจก้าวล่วงศาลได้ แต่เท่าที่ดูจากชั้นต้นแล้วค่อนข้างมั่นใจ พยานหลักฐานที่เรานำสืบหักล้างหลักฐานของโจทก์ได้ทั้งหมด

ปัจจัยที่จะชนะคดีลักษณะนี้อยู่ที่ไหน
ปัจจัยที่จะทำให้ชนะอยู่ที่การเตรียมคดี  อะไรที่มันไม่จริงมันต้องมีข้อพิรุธให้เราจับได้

ความเข้าใจของผู้พิพากษาในเรื่องเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญไหม
มันอยู่ที่เรานำเสนอ อยู่ที่ว่าฝ่ายโจทก์หรือฝ่ายจำเลยจะนำเสนออย่างไร คดีนี้โชคดีกว่าคดีอื่นตรงที่ศาลอนุญาตให้เรานำสืบได้ทุกขั้นตอน สามารถเอาคอมพิวเตอร์ไปฉายโปรเจ๊กเตอร์ได้ สาธิตการเกิดไฟล์ได้

อันนี้ควรเป็นสิทธิพื้นฐาน ทำไมใช้คำว่า “โชคดี”
ก็มันโชคดี เข้าใจว่าคดีอื่นไม่ได้

การยกฟ้องครั้งนี้น่าจะทำให้คดีในลักษณะนี้ที่มีอยู่เรื่อยๆ ไหลมาที่ทนาย หนักใจหรือไม่
ตราบใดที่กระบวนการการดำเนินคดีของมาตรา 112 ยังเป็นแบบนี้ ผมไม่อยากทำ คือเป็นกระบวนการกล่าวหาแล้วก็ห้ามประกันตัว มันเครียดและอึดอัด
ผมว่าเอาคดีนี้เป็นตัวอย่าง เป็น case study  ทนายไม่ว่าใครก็แล้วแต่ที่มาทำคดีลักษณะนี้ให้ดูลักษณะการเตรียมคดีหรือสืบ พยานในคดีนี้ แต่ละคดีไม่เหมือนกัน แต่อาจดูแนวทางการนำสืบหรือการหักล้าง น่าจะเป็นแนวทางการต่อสู้ของคนที่เจอชะตากรรมเดียวกับสุรภักดิ์ได้

คนที่ไม่ได้นั่งฟังอาจไม่เห็นว่าแนวทางเป็นยังไง เช่น เป็นคดีคอมพิวเตอร์ที่ถามน้อยที่สุเท่าที่เคยเห็นมา
ผมว่าผมถามไม่น้อยนะ ให้ดูเรื่องคำถามที่ถามก็ได้ ผมเอาให้เข้าประเด็นทั้งหมด ไม่ต้องถามอะไรนอกเหนือไปมาก มีพยานปากหนึ่งผมไม่ถามเลยเพราะไม่เกี่ยวกับคดี ถ้าเราสามารถหักล้างพยานโจทก์ได้หมด ศาลก็คงไม่เขียนคำพิพากษาไปเป็นอย่างอื่น ผมพยายามปิดช่องว่าง คดีอากงผมเห็นแล้วว่าถ้าเราอุดไม่เต็มศาลก็สามารถไปออกตรงนั้นได้ วันนี้ถ้าเราสามารถเตรียมคดีดีๆ ปิดทุกช่องทาง คนที่นั่งฟังกระบวนพิจารณาตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายก็สามารถเชื่อได้โดย ปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิด

เรื่องเนื้อหาที่ถูกกล่าวหา ถ้าคดีนี้สู้ได้จะสู้ไหม
สู้ ต้องสู้ทุกประเด็น แต่ผมดูแล้ว วันแรกที่เจอสุรภักดิ์ที่เรือนจำ ผมบอกกับเขาว่าผมไม่ได้สู้เรื่องมาตรา 112 ผมสู้เรื่องคอมพิวเตอร์

พอผลของคดีนี้ออกมา แสดงว่าความเชื่อแบบเดิมๆ ว่าคดีนี้ยังไงก็ไม่มีทางชนะนั้นอาจไม่ใช่แล้ว
ใช่ คดีนี้ผมรับปากกับแม่เขา ผมยังไม่รู้เลยว่าเขาฟ้องอะไรบ้าง ข้อหากี่กระทง แต่รู้อย่างเดียวว่าจำเลยเขามีสิทธิมีทนาย โดยส่วนตัวของผมเห็นว่าปัญหาของมาตรา 112 ปัญหามันอยู่ที่การนำเอามาตรานี้มาใช้กับประชาชน คือ กระบวนการนำมาใช้ที่เป็นปัญหา โดยส่วนตัวผมไม่ได้คิดโต้แย้งอะไรกับตัวกฎหมาย แต่ติดตรงการนำมาใช้ ยกตัวอย่าง คดีสุรภักดิ์ ใครก็ไม่รู้มากล่าวหาลอยๆ แล้วเขาก็ติดคุกปีกว่า บางคนโชคดีได้ประกันตัว บางคนก็ไม่ได้โชคดีอย่างนั้น
สุรภักดิ์เองก็เจอแรงกดดัน ถูกกล่อมให้รับสารภาพ เพราะคนเชื่อว่าสู้ไม่ได้ มีหลายคนจำยอมต้องรับสารภาพเพราะคาดหวังว่าจะได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ได้รับโทษน้อยลง นี่คือปัญหาของเรื่องกระบวนการ อันที่จริงคดีนี้ต้องได้รับการพิสูจน์ว่าเขาทำผิดจริงหรือเปล่า

ได้ค่าตอบแทนสูงไหม
ก็ไม่รู้จะเบิกที่ใคร (หัวเราะ) คือ ในระหว่างการต่อสู้คดี จริงๆ เราก็อยากได้เงิน แต่คดีนี้มันมาจากความเต็มใจของผมเองและสิ่งที่ได้มาทดแทน ได้มาจากพรรคพวกพี่น้องเสื้อแดงด้วยกัน มันอบอุ่น ให้กำลังใจตลอด เราได้สิ่งนั้นมาทดแทนเรื่องค่าตอบแทน

ที่มา prachatai

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

สยามพารากอน ห้างเดียว ใช้ไฟฟ้ามากกว่าแม่ฮ่องสอน 2 เท่า



►สยามพารากอน ห้างเดียว ใช้ไฟฟ้ามากกว่าแม่ฮ่องสอน 2 เท่า◄

►ห้าง สรรพสินค้าใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ เพียง 3 ห้างใช้ไฟฟ้ารวมกันเทียบเท่ากับปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้จากเขื่อน 3 เขื่อนรวมกัน มากกว่าการใช้ไฟฟ้าของจังหวัดแม่ฮ่องสอนถึง 4 เท่า◄

(ที่ มา : - กลุ่มพลังไท, การไฟฟ้านครหลวง 2549- รายงานการใช้ไฟฟ้า 2549 กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานกระทรวงพลังงาน- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย- การไฟฟ้านครหลวง)

การลดลง ของพื้นที่ป่าไม้ในรอบ 40 ปีป่าไม้ เมืองไทย ปี พ.ศ.2504 มีพื้นที่รวมกัน 273,629 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น 53% ของพื้นที่ประเทศป่าไม้เมืองไทย ปี พ.ศ.2547 มีพื้นที่รวมกัน 167,590 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น 32% ของพื้นที่ประเทศตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ป่าไม้เมืองไทยถูกทำลายไปประมาณ 1 แสนกว่าตารางกิโลเมตร หรือ 66 ล้านไร่ คิดเป็น 1 ใน 5 ของพื้นที่ประเทศไทย (ที่มา : กรมป่าไม้)


ปริมาณการใช้ไฟฟ้า ปี 2549

ภาคครัวเรือนใช้ไฟฟ้า 27,005 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 4,893 ล้านหน่วยในช่วง 5 ปี

ภาคธุรกิจใช้ไฟฟ้า 40,535 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 8,894 ล้านหน่วย


ในช่วง 5 ปีปริมาณการใช้ไฟฟ้าของห้างสรรพสินค้าเปรียบเทียบกับจังหวัดและการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อน


► ปี 2549 ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของ 3 ห้างใหญ่ ◄

สยามพารากอน 123 ล้านหน่วย

มาบุญครอง 81 ล้านหน่วย

เซ็นทรัลเวิลด์ 75 ล้านหน่วย

รวม 279 ล้านหน่วย



► ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของแต่ละจังหวัด ◄

แม่ฮ่องสอน 65 ล้านหน่วย

อำนาจเจริญ 110 ล้านหน่วย

มุกดาหาร 128 ล้านหน่วย

น่าน 175 ล้านหน่วย

อุทัยธานี 193 ล้านหน่วย

เลย 246 ล้านหน่วย

นราธิวาส 278 ล้านหน่วย

ระนอง 278 ล้านหน่วย


►► ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของห้างสรรพสินค้า 3 แห่งรวมกัน มากกว่าหรือเท่ากับปริมาณการใช้ไฟฟ้าของบางจังหวัด เปรียบเทียบปริมาณการ ผลิตไฟฟ้าและการใช้ไฟฟ้าในปี 2549 (ล้านบาท) ◄◄


เขื่อนปากมูล กำลังผลิต = 140 >>> ห้างสยามพารากอน ใช้ไฟฟ้า = 123 ล้านหน่วย

เขื่อนสิรินธร กำลังผลิต = 87 >>> ห้างมาบุญครอง ใช้ไฟฟ้า = 81 ล้านหน่วย

เขื่อนอุบลรัตน์ กำลังผลิต = 39 >>> ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ใช้ไฟฟ้า = 75

รวม 3 เขื่อนกำลังผลิต = 266 ล้านหน่วย >>> 3 ห้างใช้ไฟฟ้ารวม = 279 ล้านหน่วย

ที่มา gimyong